คลิปหลุดนักศึกษา

เผด็จศึกพี่แบม คุณแม่ยังสาว บำเรอสวาท

เผด็จศึกพี่แบม คุณแม่ยังสาว บำเรอสวาท 0 0000 ผมรู้จักพี่แบมมาตั้งแต่ผมยังเด็ก สมัยที่พี่เค้าอายุสักสิบเจ็ดสิบแปด พี่แบมมาสมัครเป็นพนักงานที่ร้านโชห่วยของพ่อผมเพื่อหารายได้พิเศษระหว่างเรียน ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ป.หกได้มั้ง วันหยุดต้องมาช่วยพ่อขายของที่ร้านตามประสาครอบครัวพ่อค้า ก็เลยคลุกคลีกับบรรดาพนักงานจนคุ้นเคยกัน โดยเฉพาะพี่แบมที่เป็นคนใจดี คุยเก่ง ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา และที่สำคัญ หน้าตาน่ารักเสียด้วยสิ เด็กวัยกำลังจะแตกเนื้อหนุ่มอย่างผมก็เลยแอบปลื้มพี่เค้าไปตามประสา จำได้ว่าตอนนั้นผมชอบหาเรื่องใช้พี่เค้าบ่อย ๆ ให้พาไปซื้อของเอย ให้สอนการบ้านเอย ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอก เป็นเพราะอยากคุยอยากใกล้ชิดด้วยเท่านั้นเอง

ที่พี่แบมต้องมาทำงานระหว่างเรียนก็เพราะฐานะทางบ้านของพี่เค้าไม่ค่อยจะดีนัก อันที่จริงพ่อผมกับพ่อพี่แบมเป็นเพื่อนกันมาสมัยเรียนหนังสือ แต่พ่อเค้าติดการพนัน บ้านเอยรถเอยที่เคยมีก็ถูกยึดไปหมด ลูกทั้งสามคนก็เลยต้องช่วยพ่อแม่หาเงินมาโปะหนี้เท่าที่จะทำได้

แต่พี่แบมโชคดีกว่าพี่น้องคนอื่นตรงที่มีปัญญาเป็นอาวุธ พี่สาวพี่ชายเรียนจบปวช.ก็ออกมาทำงานโรงงาน แต่พี่แบมเอ็นทรานซ์ติดคณะแพทย์ แล้วยังได้ทุนเรียนฟรีอีก พ่อแม่นี่ยิ้มหน้าบานเลย เที่ยวไปโม้ทั้งตลาดว่ามีลูกสาวเรียนแพทย์อยู่ที่กรุงเทพ

พอพี่แบมไปเรียนมหาวิทยาลัย ผมกับเค้าก็เลยห่างหายกันไป แต่ระหว่างครอบครัวเราก็ยังติดต่อกันเป็นระยะ วันที่จะรับปริญญา พ่อพี่แบมยังมาชวนพ่อผมไปร่วมพิธีด้วยกันเลย แต่บังเอิญว่าพ่อผมไม่ค่อยสบาย ก็เลยไม่ได้ไปด้วย

ตอนผมเรียนประถม โชห่วยของเราเป็นแค่ร้านเล็ก ๆ แต่ด้วยความขยันและความสามารถของพ่อ เจ็ดแปดปีถัดมา พ่อขยายร้านไปได้ถึงเจ็ดแปดสาขาทั่วจังหวัด กลายเป็นร้านสะดวกซื้อที่คนรู้จักกันทั้งจังหวัด พ่อพัฒนาจากร้านโชห่วยธรรมดา กลายเป็นมินิมาร์ทติดแอร์ทันสมัย ขนาดที่ว่าเซเว่นยังต้องกลัวไม่กล้าเปิดใกล้ร้านเรา

แต่ใช่ว่าชีวิตจะมีแต่ความสุข ความเศร้าครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตมาเยือนผมเมื่อพ่อที่ป่วยกระเสาะกระแสะมานานได้ลาจากโลกนี้ไปเมื่อตอนที่ผมกำลังจะเข้ารับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรพอดี ป่านนี้พ่อคงกำลังมีความสุขอยู่บนสวรรค์ ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่ล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่ผมอายุสามขวบ

ในฐานะที่เป็นลูกชายคนเดียว แม้ว่าผมจะเพิ่งจบมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องรับบทบาทผู้จัดการใหญ่เต็มตัว ดูแลเครือข่ายมินิมาร์ททั้งหมดที่มีพนักงานเป็นร้อย อาศัยที่ว่าผมคลุกคลีกับร้านพ่อมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยรับช่วงได้ไม่มีปัญหา

ทางด้านพี่แบม ใช้ทุนเสร็จพี่เค้าก็ปักหลักที่กรุงเทพ ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน แต่ในปีที่ผมกลับมาจากกรุงเทพมาดูแลกิจการที่บ้านนี่เอง ผมก็ได้เจอพี่แบมโดยบังเอิญที่มินิมาร์ทของผม พี่แบมกับผู้ชายคนหนึ่งกำลังมายืนเลือกของอยู่ที่มุมของเล่นเด็ก

ผมไม่ได้เจอพี่เค้ามานานมาก นานจนจำกันแทบไม่ได้ ไอ้ตัวผมเองหน่ะพอจะจำพี่เค้าได้บ้าง เพราะแม้ตอนนี้พี่แบมจะอายุยี่สิบเก้าแล้ว แต่ก็ยังสวยสะพรั่ง แทบไม่ต่างจากตอนเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อเค้าอายุยี่สิบสอง แต่พี่เค้านี่สิ กว่าจะนึกหน้าผมออกก็นิ่งอยู่นาน ก็ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กหัวเกรียนอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มเต็มตัว ไว้ผมยาวประบ่า ใส่แสล็คขาเดฟไปซะแล้ว

ผมได้ข่าวมาว่าพี่แบมแต่งงานกับหมอหนุ่มชาวกรุงเทพ แล้วพากันตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นั่น เลยสงสัยว่าทำไมถึงมาโผล่อยู่แถวนี้ได้ สอบถามได้ความว่าตอนนี้พี่แบมท้องได้สามเดือนแล้ว

“พ่อพี่เห่อหลาน อยากให้พี่กลับมาอยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ แกจะได้เลี้ยงหลาน นี่ลงทุนเปิดคลินิคให้พี่เลยนะ”

คลินิกหมอแบมอยู่ในตัวเมือง ใกล้ ๆ กับมินิมาร์ทสาขาหนึ่งของผมนั่นเอง หมอสองคนสามีภรรยาช่วยกันออกตรวจรักษาคนไข้ ทั้งคู่พูดเพราะ อัธยาศัยดี ลูกค้าเลยติดเยอะ วันหนึ่ง ๆ ผมเห็นต่อคิวรักษากันยาวเหยียด ว่าง ๆ ผมก็เดินแวะไปหาบ้าง ช่วงนี้ผมจึงเจอหมอแบมบ่อย ๆ เห็นพี่เค้าใส่ชุดกาวน์สีขาว ใส่กระโปรงพลีทพลิ้ว ๆ ส่งยิ้มหวาน ส่งเสียงเพราะ ๆ ให้คนไข้ บางครั้งผมก็หวนคิดถึงตอนที่ผมแอบปลื้มพี่เค้าสมัยเด็ก ถ้าไม่ติดว่าหมอพจน์จัดการตีตราจองพี่แบมไปเรียบร้อยแล้ว ผมอาจจะใจกล้าจีบพี่เค้าก็ได้นะ

พี่แบมดูเหมือนจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาก สามารถพลิกฐานะของครอบครัว จากเด็กที่ต้องมาทำงานพิเศษเป็นลูกจ้างในโชห่วย กลายเป็นคุณหมอที่มีคลินิกมีลูกค้ามากมาย แล้วตอนนี้ ก็กำลังจะมีลูกน้อยมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ พี่แบมคงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมาก ถ้าวันหนึ่ง ฟ้าไม่ผ่าลงมาทำลายครอบครัวนี้จนย่อยยับเสียก่อน

ข่าวร้ายที่เข้ามาในอาทิตย์เดียว ทำลายชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ของพี่แบมเสียยับเยิน ในวัยที่เธอท้องโตใกล้คลอด พ่อเธอที่ทุกคนเข้าใจว่ากลับตัวกลับใจได้แล้ว อยู่ดี ๆ กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ พี่แบมร้องไห้มาบอกผมว่า พ่อหนีไปอยู่ประเทศลาว เพราะเจ้าหนี้จะมาตามฆ่า พ่อพี่แบมหันกลับไปเป็นทาสพนันอีกครั้งแล้ว

น้ำตายังไม่ทันแห้งหาย สองวันถัดมา ไทยรัฐก็ลงข่าวหน้าหนึ่งหรา “จับหมอหนุ่มค้ายานรก แฉเป็นเอเย่นต์ แอบลักลอบขนจากลาว” พี่แบมที่กำลังจะคลอดอยู่เต็มที ถึงกับเป็นล้มลมพับเมื่อได้รับข่าวร้าย ไม่ใช่แค่พี่แบมหรอกที่ตกใจ ทุกคนที่รู้ข่าวรวมทั้งผมด้วย ต่างก็ไม่อยากจะเชื่อว่าข่าวนี้จะเป็นจริง มันยากที่จะทำใจให้เชื่อได้ว่า ผู้ชายหน้าตาดีมีความรู้ที่มีอาชีพเป็นถึงหมอรักษาคนไข้จะหลงผิดคิดสั้นริรวยทางลัดไปค้ายานรก

พี่แบมถูกหามส่งโรงพยาบาล หมอแนะนำให้นอนที่นั่นจนกระทั่งเธอคลอดลูกชายหน้าตาน่าเอ็นดู เจ้าหนูบีม เด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกพอจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจให้พี่แบมพอยิ้มได้บ้าง วันที่ผมหิ้วของฝากไปเยี่ยม ผมเห็นพี่แบมกับแม่เค้ากำลังหยอกล้อเล่นกับหลานอย่างมีความสุข

แต่มันก็เป็นความสุขชั่วครู่ยาม พอเริ่มแข็งแรง หมอแบมก็ต้องมาเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง เธอต้องรับมือกับปัญหาที่เธอไม่ได้ก่อ บรรดาเจ้าหนี้ของพ่อ มาทวงเอากับเธอในฐานะลูกสาวที่มีหน้ามีตาอยู่ในตัวเมือง พวกนั้นคงคิดว่าพี่แบมมีฐานะ คงพอจะมีเงินใช้หนี้แทนพ่อ แต่ที่จริงแล้ว พี่แบมต้องผ่อนบ้านที่เปิดเป็นคลินิกเป็นจำนวนเงินเดือนละไม่น้อย ยิ่งเมื่อสามีถูกจับติดคุก เธอเองก็คลอดลูก ก็ไม่ได้เปิดคลินิก แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ให้พ่อ มาจ่ายค่าผ่อนบ้าน มิหนำซ้ำยังต้องเสียค่าทนายเพื่อสู้คดีให้หมอพจน์อีก

คลอดลูกได้แค่เดือนเดียว คลินิกหมอแบมก็เลยต้องรีบเปิดให้บริการอีกครั้งเพื่อหาเงินมาโปะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ แต่ข่าวคราวที่แพร่สะพัดไปทั่วจังหวัดว่าหมอคลินิกนี้ขายยาบ้า ทำให้จำนวนคนไข้ลดลงเกินครึ่ง

ผมคงเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่พี่แบมมองเห็น วันหนึ่งผมจึงเห็นหญิงสาวใส่เสื้อกาวน์ยืนกดกริ่งอยู่หน้าบ้านผม

“ธนาคารกำลังจะยึดคลินิคพี่แล้ว”

เธอมาขอร้องขอยืมเงินจากผม ใบหน้าที่แม้จะยังมีเค้าความสวยแต่ก็หมองเศร้าจนผมนึกสงสาร ก็เลยเขียนเช็คให้พี่เค้าไปหลายหมื่น ไม่ได้คิดดอกบ้งดอกเบี้ยอะไร

อีกหนึ่งเดือนถัดมา หมอแบมก็มายืนกดกริ่งที่หน้าบ้านผมอีก เปล่าหรอก ไม่ใช่มาใช้หนี้ มาขอยืมเงินเหมือนเดิม คราวนี้ขอยืมเพื่อเป็นค่าทนายสู้คดีให้หมอพจน์

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอาเช็คไปให้ที่คลินิคนะครับ”

คราวนี้ผมไม่ให้เช็คไปเลย เพราะบังเอิญว่าเมื่อคืนนี้ผมเข้าไปรื้อในห้องเก็บของของพ่อ เลยได้เจอในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเจอ ซึ่งทำให้ผมถึงกับเหงื่อตกเม็ดด้วยความตกใจ และวันรุ่งขึ้น เมื่อผมเข้าไปในห้องตรวจคนไข้ เอาของที่ว่าไปให้หมอแบมดู เธอก็ปากคอสั่น เหงื่อแตกเต็มใบหน้าไม่แพ้ผม

“แดนไปเอารูปพวกนี้มาได้ไง”

รูปที่ว่า คือรูปหญิงสาววัยแรกรุ่น สวมเสื้อนักเรียนม.ปลาย ปักชื่อชัดเจน และถึงไม่ต้องดูชื่อผมก็รู้ว่าเป็นใคร หญิงสาวในรูปที่กำลังนอนหงายทำหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเก ข้างล่างตั้งแต่เนินหน้าท้องขาวเนียนเป็นต้นมาเปลือยเปล่าไม่ได้ใส่อะไรเลย และมีท่อนมหึมาสีดำ ๆ ผลุบเข้าไปในกลีบเนื้อกระชับกว่าค่อนลำ ผิวเนียนขาวอย่างนี้ใบหน้าสวยอย่างนี้ ผมจำได้ทันทีว่าคือผู้หญิงที่ผมแอบปลื้มมาตั้งแต่เด็ก หมอแบมนั่นเอง

และผู้ชายในรูปที่กำลังโก่งก้นเพื่อรวมพลังกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปในร่องหลืบ แม้ในรูปสิบกว่าใบนี้จะไม่เห็นหน้า แต่แค่เห็นท่าทางผมก็จำได้ว่า เขาคือพ่อผมนั่นเอง!

ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในรูปเกิดขึ้นได้อย่างไร และดูเหมือนพี่แบมเองก็ไม่อยากให้ผมได้รู้ พี่เค้าอ้อนวอนขอร้องให้ผมคืนรูปชุดนั้นให้ ผมยินดีจะคืนให้ แต่มีข้อแม้ว่า

“พี่ต้องทำกับผม แบบเดียวกับที่ทำกับพ่อ”

แน่หละครับ พี่แบมตกใจมากกับคำพูดของผม เธอด่าผมต่าง ๆ นานา และปฏิเสธไม่ยอมทำตามคำพูดของผม แต่ในสถานการณ์ที่ผมถือไพ่เหนือกว่าเช่นนี้ พี่แบมไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก เมื่อผมทั้งบังคับ ทั้งอ้อนวอน ประกอบกับลดคำขอเหลือแค่ให้พี่แบมใช้ปากให้กับผม ในที่สุดเธอก็กล้ำกลืนยอมทำตามคำขอของผมจนได้

“ใช้แค่ปากแค่นั้นนะแดน”

พี่แบมพยายามขอร้องผลัดเป็นเวลาอื่น เธอบอกว่ามันคงไม่เหมาะสมที่จะทำอะไรในห้องตรวจโรคที่มีทั้งพนักงานจ่ายยาของเธอยืนอยู่หน้าห้อง มีคนไข้นั่งรอตรวจส่งเสียงดังจอแจ ซ้ำทารกน้อยลูกรักของเธอก็นอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ผมไม่ยอม ผมต้องการให้เธอคุกเข่าลงกับพื้น ใช้ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอสำเร็จความใคร่ให้กับผม ในห้องตรวจโรคของเธอนี่แหละ

ท่ามกลางเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของบรรดาคนไข้ที่เฝ้ารอหมอเรียกชื่ออยู่ข้างนอก ทุกคนคงจะกระวนกระวายว่าเมื่อไหร่หมอจะเรียกตนเข้าไปรักษาสักที แต่คงอีกนานกว่าคิวต่อไปจะถูกเรียก เพราะตอนนี้ หมอสาวคนสวยกำลังคุกหัวเข่ากลมมนลงกับพื้นห้อง เตรียมตัวรักษาโรคให้กับเด็กหนุ่มรุ่นน้องอย่างผม โรคที่ว่าคือโรคของผู้ชายที่เรียกว่าโรคเงี่ยน จะเป็นเฉพาะเวลาได้เจอผู้หญิงขาว ๆ สวย ๆ อย่างหมอแบมนี่แหละ อาการของโรคปรากฏต่อหน้าคุณหมอที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ เมื่อผมนั่งเอนหลังลงกับเก้าอี้นวมที่ปกติเธอใช้นั่งตรวจโรค แล้วเอ่ยปากสั่งให้เธอปลดกางเกงของผมลงกองกับพื้น อาการของโรคที่ว่าก็คือ ท่อนเนื้อสีดำลำใหญ่ ที่เด้งผลึงออกปรากฏห่างจากใบหน้าสวยไม่กี่นิ้ว

ผมบอกให้หมอแบมแลบเรียวลิ้วของเธอออกมาลากลิ้มรสท่อนเนื้อของผม ไม่รู้ว่าเธอโกหกผมหรือเปล่านะ แต่เมื่อผมถามว่าเคยทำอย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า หมอแบมก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ดวงตากลมใสของเธอสั่นระริก มองตรงมาที่ตาผมเหมือนกับจะขอร้องให้ผมเห็นใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อผมใช้มือค่อย ๆ ประคองหัวเธอให้โน้มเข้ามาใกล้ลำลึงค์มากขึ้น แม้หมอแบมจะผงะหน้าหนีกลิ่นคาว หมอแบมหันหน้าไปมองเจ้าบีมทารกน้อยที่นอนหลับสนิทบนเตียงมุมห้องเหมือนจะชั่งใจ แต่ที่สุดแล้ว เธอก็ต้องยอมค่อย ๆ แลบลิ้นออกมาลากเลียตามที่ผมขอ

ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะมีวาสนาได้นั่งเอนหลังในห้องตรวจโรคให้คุณหมอคนสวยนั่งคุกเข่าเลียควยให้
ทุกสัมผัสที่หมอแบมลงลิ้น ทำให้ผมกลั้นเสียงครางไว้แทบไม่ไหว ผมสั่งให้เธอลากลิ้นไปทั่วทั้งลำลึงค์จนมันชุ่มน้ำลายของเธอ แม้แต่เจ้าลูกบอลโตงเตง เธอยังต้องลากลิ้นสัมผัสจนทั่ว

ผมจับเอามือซ้ายเรียวสวยของเธอมากำไว้รอบลำลึงค์ที่ชุ่มน้ำลายมือนุ่ม ๆ ขาวเนียนชักเข้าชักออกกับหนังเนื้อสีดำ แหวนพจน์ที่นิ้วนางของหมอแบมสัมผัสกับท่อนเนื้อจนผมเย็นวาบ หมอแบมกำลังใช้ปากบำบัดคนไข้ให้ชายอื่น ใต้โต๊ะที่เธอกับสามีเคยใช้ตรวจคนไข้ร่วมกันนั่นเอง

ใบหน้าสวยเปื้อนเครื่องสำอางบาง ๆ อยู่ห่างจากควยผมไม่กี่นิ้ว แม้ตอนนี้น้ำตาใส ๆ จะไหลลงมาจนมาสคา
ร่าที่เธอปัดขนตาไว้ไหลลงมาเลอะแก้มใส ๆ แต่มันก็มิอาจทำให้ความสวยของพี่แบมลดลงไปกว่าเดิม ผมจึงค่อยดันท่อนเนื้อผ่านริมฝีปากที่ทาลิปสติกระเรื่อ เจ้าลำลึงค์ค่อย ๆ มุดเข้าไปในปากนุ่ม ๆ ที่อมรับอย่างไม่เต็มใจนัก

คุณหมอในเสื้อกาวน์ที่ตอนนี้มีท่อนควยอัดแน่นอยู่เต็มช่องปากถูกผมสั่งให้ค่อย ๆ รูดริมฝีปากอวบอิ่มเข้า ๆ ออก ๆ โดยมีตัวผมเองคอยช่วยขยับเอวเนิบเนิบให้ท่อนเนื้อเข้าไปกระทบกับคอหอยของสาวสวยดังกึก แก้มใส ๆ ตอบเข้าเห็นเป็นรูปลำควยเมื่อผมสั่งให้เธอออกแรงดูดแล้วผมเองก็กระแทกควยเข้าไปแข่งกับแรงดูดนั้น

ผมเองแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ริมฝีปากของพี่แบมทำเอาผมแทบกลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหว อยากจะส่งเสียงกระเส่าให้คนไข้ของเธอนับสิบได้ยินให้มันรู้แล้วรู้รอด ผมระบายอารมณ์ด้วยการใช้มือจิกรั้งผมยาวสลวยของเธอจนใบหน้าสวยแหงนเชิด มืออีกข้างบี้ขยำอยู่กับหน้าอกขนาดพอเหมาะมือที่มีเสื้อกาวน์ขาวบริสุทธิ์ห่อหุ้มอยู่ ขาสองข้างที่พาดอยู่บนบ่าน้อย ๆ ของหมอแบมบีบรัดใบหน้าเธอจนหน้าขาว ๆ เป็นรอยแดง

ผมผลักหน้าหมอแบมหัวเธอพาดกับขอบโต๊ะ แล้วกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม แรงกระแทกทำให้สเตทโตสโคปตรวจโรคที่เธอห้อยคอไว้เป็นประจำหลุดลงไปกองกับพื้นห้อง ผมจึงถอนลำควยให้เธอได้ก้มลงเก็บ พลันที่ควยหลุดออกจากปากเสียงดังบ๊วบ น้ำลายใส ๆ ก็ไหลตามออกมาเป็นยางยืดจากปากหมอแบม คราบลิปสติคจากริมฝีปากสวยติดเปื้อนอยู่กับท่อนเนื้อเป็นสีชมพูอ่อน ๆ ตัดกับสีดำสนิทของมัน

คราวนี้ผมใช้มือกวาดข้าวของบนโต๊ะตรวจโรคไปกองไว้มุมเดียวกัน แล้วใช้สองแขนประคองร่างบางขึ้น ปล่อยให้เธอนอนราบกับพื้นโต๊ะ แล้วผมก็ก้าวขึ้นไปนั่งยองยองบนโต๊ะนั้น ท่อนเอ็นชุ่มน้ำลายยังคงแข็งตะหง่าน ผมประคองมันไปจ่อที่ริมฝีปากของหมอสาวที่นอนหงายอยู่บนโต๊ะ แล้วก็ยัดมันลงไปในปากเธออีกรอบ ผมค่อย ๆ โยกเอวลงบดปากของเธอ แข่งกับแรงดูดที่ผมบังคับให้เธอดูด

“แง้ ๆ ๆ ๆ ๆ ”

เสียงเจ้าหนูบีมทารกน้อยที่นอนอยู่มุมห้องร้องขึ้นมาดังลั่น สัญชาติญาติความเป็นแม่ทำให้หมอแบมผงกหัวขึ้นมา พยายามจะลุกจากโต๊ะขึ้นไปหาลูก เมื่อเป็นอย่างนี้ผมจึงต้องแข่งกับเวลา ผมขืนตัวหมอสาวแม่ลูกอ่อนไว้กับโต๊ะ ไม่ยอมให้เธอลุกขึ้นตามใจอยาก แล้วเร่งซอยเอวใส่ปากเธออย่างเร็วและแรง ร่องปากนุ่ม ๆ รัดรึงลำควยจนในที่สุดผมก็กระตุกเกร็งฉีดน้ำเงี่ยนใส่ในปากคุณหมอ ไม่ทันที่ผมจะได้หลั่งน้ำจนหมด หมอแบมก็รีบถอนใบหน้าออก ทำให้น้ำขาวขุ่นที่เหลือ กระฉูดลงบนใบหน้าสวยของเธอจนไหลรินเป็นทาง

หมอแบมรีบวิ่งไปหาลูกพลางคว้าเอาผ้ามาเช็ดคราบอสุจิออกจากใบหน้า ลูกชายของเธอร้องไห้จ้า เธอจึงรีบถลกเสื้อกาวน์ออกเพื่อให้นมลูกโดยลืมอายว่ามีผมยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย เต้าขาว ๆ ของเธอจึงโผล่แพลมออกมาให้ผมได้แอบมองเล่น

“คนต่อมาเข้ามาได้ครับ”

โดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ชิงร้องเรียกคนไข้เข้ามาในห้องตรวจเสียก่อน ชายแก่คนที่เดินกระหย่องกระแหย่งเข้ามา จึงมีวาสนาได้เห็นเนินนมขาว ๆ ของคุณหมอเป็นบุญตา

หมอแบมอายหน้าแดง เธอรีบหันหลังให้คนไข้ โชคดีที่เด็กน้อยที่พอได้กินนมหน่อยก็หายโยเย เธอบรรจงวางลูกน้อยไว้ที่เดิม ทักทายคนไข้ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ล้อเลื่อนที่เธอนั่งตรวจโรคเป็นประจำ

หมอแบมคงลืมสังเกตว่าผมหายไปจากห้องนี้ได้อย่างไร เธอคงจะลืมนึกถึงผมไปชั่วครู่ เมื่อเธอเหลือบมาเห็นผมอีกครั้ง เธอจึงตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ที่ผมนั่งยองยองอยู่ ณ เวลานี้ คือใต้โต๊ะตรวจโรค ใกล้ ๆ หว่างขาของเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั่นเอง

เมื่อผมนั่งแอบคุดคู้อยู่อย่างนี้ หมอแบมมองเห็นผม แต่คนไข้ที่นั่งอยู่อีกฟากจะมองไม่เห็นผม เธอทำสีหน้ากระวนกระวายที่มีผมนั่งอยู่ใกล้ ๆ เลยพยายามเลื่อนล้อเก้าอี้ถอยหลังออกไป แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนักเพราะติดผนังด้านหลัง ผมสังเกตดูหมอแบม ขณะที่เธอกำลังซักถามอาการกับคนไข้นั้น เธอคงไม่ได้สังเกตว่า ที่แก้มของเธอยังคงมีคราบน้ำขาว ๆ ที่เธอเช็ดออกไม่หมด ยังคงติดอยู่กับแก้มใส ๆ ข้างนั้น คนไข้ของเธอจะสงสัยหรือเปล่านะว่า คุณหมอของเขาเพิ่งผ่านการดูดควยให้ผมจนน้ำแตกใส่หน้ามาสด ๆ ร้อน ๆ

เมื่อหมอแบมทำให้ผมจนสำเร็จความใคร่ไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ผมเลยจะตอบแทนเธอบ้าง ผมวางมือลงบนหัวเข่ากลมมน เธอสะดุ้งโหยงจนคนไข้ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ผมยิ้มให้เธอที่กำลังส่ายหน้าปฏิเสธอยู่ คุณหมอจำเป็นต้องโกหกคนไข้ และต้องเก็บอาการเมื่อผมใช้มือค่อย ๆ แหวกหัวเข่าขาวเนียนสองข้างแยกออกจากกันจนมองเห็นชั้นในสีขาวใต้กระโปรงวับแวม

“ปวดท้องมานานหรือยังคะ อุ้ยย ”

หมอแบมต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเมื่อผมล้วงนิ้วเข้าไปในกางเกงในตัวนั้น นิ้วหยาบของผมฝ่าพงขนเข้าไปสัมผัสกับเนินเนื้อที่มีน้ำแฉะซึมออกมาเล็กน้อย ตอนนี้หน้าหมอแบมแดงระเรื่อ ยิ่งเมื่อผมพยายามแยงนิ้วเข้าไปในร่องแคบนั้น ร่างบางของเธอสั่นระริก พยายามจะหนีบสองขาเข้าหากันเพื่อป้องกันการรุกราน

เมื่อคนไข้ถามคำถาม หมอแบมจำเป็นต้องเก็บอาการแล้วตอบไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก ยิ่งเมื่อผมรูดกางเกงในตัวน้อยลงมากองอยู่ที่ข้อเท้าคุณหมอ คงมีคุณหมอไม่กี่คนที่มีโอกาสนั่งตรวจคนไข้โดยที่กระโปรงถูกถลกขึ้นไปกองบนหน้าขา สองขาแหวกอ้าโชว์เนินเนื้อโหกนูนที่มีน้ำฉ่ำแฉะ ถ้าคนไข้วัยชราตัวสูงกว่านี้อีกสักนิด เขาอาจจะหัวใจวายเพราะได้เห็นของรักของหวงของคุณหมอคนสวยก็เป็นได้

หมอแบมเลื่อนเก้าอี้เข้ามาให้ชิดโต๊ะที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้ชะเง้อมองเข้ามาเห็นภาพใต้โต๊ะ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ผม เพราะตอนนี้กลิ่นหอม ๆ กำลังลอยมาเตะจมูกผมเนื่องจากเนินเนื้อโหนกของหมอแบมอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงนิ้ว ชนิดที่ว่าพงขนของเธอแทบจะทิ่มหน้าผมอยู่แล้ว ได้โอกาสอย่างนี้ ผมจึงซุกหน้าลงกับเนินเนื้อ สูดเอากลิ่นกรุ่นหอมเข้าไปเต็มปอด หมอแบมนี่อนามัยสมกับที่เป็นหมอจริง ๆ แม้แต่หียังรักษาความสะอาดจนหอมกรุ่น

จมูกผมแฉะเพราะไปแตะกับร่องหลืบที่ฉ่ำเยิ้มของหมอแบม เห็นอย่างนี้ผมจึงอยากลิ้มรสดูบ้างว่าน้ำหงี่ของเธอจะหวานสมกับที่มีกลิ่นหอมอย่างนี้หรือเปล่า เลยแลบลิ้นออกมาแตะกลีบแคมแดงแจ๋เบา ๆ แน่นอนครับเธอสะดุ้งโหยงอีกแล้ว และยิ่งถึงกับบิดร่างไปมาเบา ๆ เมื่อผมค่อย ๆ ดูดหลืบเนื้อของเธอ ผมเผลอดูดแรงเกินไปจนมีเสียงดังจุ๊บเบา ๆ ตัวหมอแบมเองก็แทบจะเก็บอาการไว้ไม่ไหวแล้ว ใบหน้าแดงซ่าน ขนแขนลุกชัน ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเสียวสยิว แทบจะตอบคำถามคนไข้ไม่เป็นภาษา เธอเลยรีบตัดบท เขียนใบสั่งยาแล้วสั่งคนไข้ไปรอข้างนอก

“สะ สะ สะ สงสัยจะท้องเสียนะคะคุณลุง เดี๋ยวมะ หมอ เอ่อ เดี๋ยวหมอสั่งยาให้นะคะ”

ก็พอดีกับไอ้น้องชายผมมันผงาดง้ำขึ้นมาอีกรอบ แค่เพียงคล้อยหลังคนไข้ไป ไม่ทันที่เธอจะได้ตำหนิผม ผมก็รีบช้อนเอาตัวหมอแบมขึ้นไปนั่งบนโต๊ะตรวจโรคทันที มิใยที่เธอจะขัดขืนเพียงใด ก็ไม่อาจจะต้านทานแรงของผมได้ ที่สุดแล้วหมอแบมจึงต้องขึ้นไปนั่งชันขาอยู่บนโต๊ะ กระโปรงบานถลกร่นลงไปกองกันที่เอว สองขาเรียวถูกผมแหกอ้าออก เผยให้เห็นกลีบเนื้อที่แหวกอ้าออกจากกัน มองเห็นน้ำใส ๆ เอ่อล้นออกมาจากกลีบเนื้อแดง ๆ

เพื่อแข่งกับเวลาผมเลยต้องรีบจ่อเจ้าน้องชายเข้ากับปากร่องหลืบของเธอ หมอแบมน้ำตาซึมออกมาอีกครั้งเมื่อผมค่อย ๆ ดันปลายหยักเข้าไปในกลีบเนื้อ เธอชำเลืองมองไปยังลูกน้อยที่นอนหลับอยู่มุมห้อง เธอเพิ่งคลอดลูกชายมาได้ไม่กี่เดือน แต่ตอนนี้กำลังจะได้สามีใหม่อีกคนแล้วโดยที่เธอไม่เต็มใจในคลินิกของเธอเอง

แม้ร่องหีสวย ๆ ร่องนี้จะเคยผ่านควยชายมาแล้วรวมทั้งควยของพ่อผม แต่มันก็ยังคงฟิตจนรัดลึงค์ของผมแน่นเปรี้ยะ หมอแบมเพิ่งจะคลอดลูก แต่รอยผ่าตัดแสดงให้เห็นว่าเธอใช้วิธีผ่าออก ร่องหลืบของเธอจึงยังคับแน่นเหมือนเดิม หมอแบมอาจจะคิดว่าอยากจะผ่าเพื่อถนอมความคับแน่นไว้ให้กับสามี แต่เธอคงไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนแรกที่ได้ใช้งานความฟิตรัดนี้หลังจากเธอคลอดกลับไม่ใช่สามี แต่เป็นหนุ่มรุ่นน้องที่เธอเคยไว้ใจ

ผมโยกเอวกระแทกใส่ร่องหีแม่ลูกอ่อนแรง ๆ จนเธอต้องจุ๊ปากด้วยเกรงว่าเสียงเนื้อกระแทกเนื้อจะดังออกไปนอกห้องตรวจ แต่ผมไม่ได้กังวลนักเพราะข้างนอกนั้นเสียงคนไข้คุยกันจอแจ แม้เธอจะกังวลว่าผมจะส่งเสียง แต่สุดท้ายกลับเป็นเธอเองที่ส่งเสียงครางอือ ๆ ออกมาจากลำคอ เจ้าท่อนยักษ์ของผมมันคว้านเข้าไปในร่องเนื้อของเธอ เสียงควยผมกระแทกมดลูกหมอสาวแสนสวยดังกึก ๆ ทุกครั้งที่ผมกระแทกเข้าไป เสียงกระเส่าก็เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่เม้มไว้แน่นให้ได้ยิน

ผมอุ้มหมอแบมไว้ในอ้อมแขนอีกรอบโดยไม่ยอมถอนท่อนเนื้ออกจากตัวเธอ ตอนนี้เราสองคนเลยอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง หน้าอกนุ่ม ๆ ของเธอประกบกับแผ่นอกของผม สองขาเรียวยาวกระหวัดรอบเอว หน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบ ผมเลยก้มลงจูบริมฝีปากสวย โดยไม่ลืมที่จะโยกเอวกระแทกควยเข้าไปในร่องลึกเช่นเดิม ผมจึงอารมณ์กระเจิงทั้งจากรสจูบหอมหวาน และรสรักร้อนแรงที่กลีบเนื้อของเธอขมิบตอดลำลึงค์ผมอยู่หมุบ ๆ

ผมอุ้มหมอแบมพาเธอเดินเย็ดไปรอบห้อง แล้วจึงถอนควยออกพาเธอลงไปนอนหงายกับเตียงคนไข้ ลูกชายเธอนอนหลับอยู่ใกล้ ๆ โดยที่คุณแม่ที่ท่อนล่างเปลือยเปล่ามีแต่เพียงรองเท้าส้นสูงคู่เดียวกำลังนอนหงายโชว์ความขาวเนียนท้าแสงไฟ ผมจัดให้โหนกเนื้อของเธออยู่ตรงกับขอบเตียง หีคุณหมอที่โหนกนูนอยู่แล้วจึงยิ่งลอยเด่นขึ้นมาโชว์ความแดงระเรื่อของร่องเนื้อ ผมใช้นิ้วแหวกอ้าร่องหลืบฉ่ำเยิ้มออกจากกัน แล้วยัดลึงยักษ์ลงไปอีกรอบ จัดการกระแทกลงไปจนเอวบาง ๆ ของคุณหมอแทบหัก หมอแบมจิกเล็บมือที่ทาสีชมพูอ่อน ๆ ลงบนเตียงจนเป็นรอยข่วน เธอจำเป็นต้องหาที่ระบายอารมณ์เพื่อไม่ให้เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลุดออกมาจากลำคอ

ผมเป็นนักกีฬา ทุกครั้งที่ผมกระแทกเอวใส่ ร่างหมอแบมจึงกระเทือนอย่างกับจะปลิวออกไป ผมเลยต้องคว้าเอวของเธอไว้แน่น หมอแบมคงจะเจ็บปวดมากกับการกระแทกรุนแรงของผม ยิ่งเมื่อผมเร่งการซอยถี่เร็วขึ้นไปอีก ใบหน้าสวย ๆ ของเธอถึงกับบิดเบี้ยวจนยับย่น จนเมื่อผมทะลักน้ำกามเข้าไปอุ่นวาบในร่องเนื้อนั่นแหละเธอจึงได้ผ่อนคลายลง

ผมฉีดน้ำอุ่น ๆ เข้าไปในช่องหีหมอแบม น้ำกามของผมมันทะลักหลั่งอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด แม้กระทั่งเมื่อเธอผลักตัวผมออกจนท่อนเนื้อหลุดดังผลัวะ น้ำขาวข้นก็ยังพุ่งกระฉูดจนเปรอะเลอะเสื้อกาวน์ของเธอเต็มไปหมด

คุณหมอสาวรีบลุกขึ้นมาแต่งตัว แต่ยังไม่เรียบร้อยดีนัก ผมก็แกล้งรีบเรียกคนไข้เข้ามาอีก สภาพคุณหมอที่นั่งอยู่ต่อหน้าคนไข้เวลานี้จึงหัวกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง เสื้อกาวยับยู่ยี่ ซ้ำยังมีคราบน้ำขาวขุ่นเปรอะอยู่ โชคดีที่เสื้อกาวน์เป็นสีขาว คนไข้จึงคงไม่สังเกตเห็น แต่น้ำเงี่ยนที่คาวคลุ้งไปทั่วห้องนี่สิ ไม่รู้ว่าคนไข้จะเอะใจอะไรหรือเปล่า

วันนั้นทั้งวันหมอแบมต้องตรวจคนไข้โดยที่ยังมีน้ำกามของผมขังเอ่ออยู่ในร่องหีของเธอเต็มไปหมด ผมอยู่กับหมอแบมจนคนไข้คนสุดท้ายออกไปจากคลินิก แล้วผมก็จัดการบรรเลงเพลงรักกับเธอทั้งคืนบนเตียงที่เธอเคยนอนเคียงคู่กับสามีเธอนั่นเอง ผมใช้เรือนร่างคุณหมอคนสวยปรนเปรอความสุขโดยมีเจ้าหนูบีมนอนอยู่บนเตียงเด็กทารกข้าง ๆ

หากมันโตขึ้นเป็นหนุ่ม มันจะรู้สึกยังไงนะถ้าได้รู้ว่าตัวเองเคยทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกให้ผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อได้ตื่นมาเย็ดแม่ตัวเอง เพราะเมื่อผมเผด็จศึกพี่แบมไปจนน้ำกามทะลักไหล ผมก็จะนอนหลับใหลหมดแรง จนเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของเด็กน้อยนั่นแหละ ผมจึงตื่นมานั่งดูแม่ลูกอ่อนกระวีกระวาดลุกขึ้นมาให้นมลูก พอเด็กน้อยหลับปุ๋ยก็เป็นผมที่เข้าไปยึดครองสองเต้าแทนที่ จัดการยัดท่อนลำไปชำแหรกร่องลืบสีแดงสดให้เจิ่งนองด้วยน้ำขาวขุ่นอีกรอบ แล้วก็หลับพักเอาแรงอีกที จนเด็กร้องก็ขึ้นมาจับคุณแม่ยังสาวบำเรอสวาทให้หายอยากอีกรอบ เป็นอย่างนี้อยู่ทั้งคืนจนผมแตกในใส่ร่องหลืบพี่แบมถึงสี่รอบจึงนอนหมดแรงตะกองกอดเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนไว้ในอ้อมอกจนฟ้าสว่าง

กว่าจะได้เช็คจากผมไป พี่แบมก็แทบจะต้องคลานลงจากเตียงเพื่อไปตรวจคนไข้ในวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว ครั้งนั้นคือครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้เชยชมผู้หญิงที่ผมเคยแอบรัก แต่มันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเพราะหลังจากนั้นแม้พี่แบมจะไม่ได้มาขอยืมเงินผมอีก แต่ผมก็แกล้งไปทวงหนี้เธอบ่อย ๆ แน่นอนว่าไม่ลืมหยิบภาพลับชุดนั้นไปด้วย คุณหมอคนสวยจึงโดนผมจับถลกกระโปรงเย็ดคาห้องตรวจคนไข้ในคลินิกของเธอเองอยู่เรื่อยมา ทุกครั้งเธอต้องยอมทนยอมหลั่งน้ำตา เพื่อแลกกับเงินทีละหมื่นสองหมื่นที่ผมให้เธอไว้ใช้

แม้กระทั่งเมื่อหมอพจน์สามีเธอออกจากคุกมาอยู่ที่บ้านชั่วคราวเพราะศาลชั้นต้นยกฟ้อง ผมก็ยังคงมาหาพี่แบมที่คลินิกเสมอ หมอพจน์ยังไม่กล้าทำหน้าที่หมอตรวจโรค ได้แต่ยืนจ่ายยาอยู่หน้าเคาเตอร์ เขาขมักเขม้นทำหน้าที่โดยที่ไม่รู้เลยว่า ในห้องที่มีเพียงผนังบาง ๆ กั้นอยู่นั้น ภรรยาคนสวยของเขากำลังเอาแผ่นหลังเปลือยเปล่าพิงผนังนั้นไว้ สองมือประสานรอบต้นคอของผม สองขาเรียวถูกผมประคองไว้รอบเอว สองเท้าน้อย ๆ พารองเท้าส้นสูงสีดำขลับยกชูขึ้นเกือบถึงเพดาน เรือนร่างบางของเธอกระเทือนกระแทกกับผนังตามจังหวะที่ผมกระทั้นท่อนเอ็นเข้าร่องลึกของเธอ น้ำใส ๆ ไหลลงมาจากตาจนเห็นเป็นทางยาวบนเครื่องสำอาง หมอแบมกัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่ให้เสียงเล็ดรอดไปให้สามีเธอได้รับรู้ว่า ภรรยาสาวของตัวเองกำลังยอมพลีร่างโดนเด็กรุ่นน้องเย็ด เพื่อแลกกับเงินมาสู้คดีให้เขาพ้นคุก

เผด็จศึกพี่แบม คุณแม่ยังสาว บำเรอสวาท